ฝีดาษลิงติดต่อทางไหน อาการเป็นอย่างไรต้องดู ฝีดาษลิงติดต่อทางไหน อาการเป็นอย่างไรต้องดู วันนี้ถ้าจะไม่พูดถึงฝีดาษลิงก็คงจะไม่ได้เพราะหลังจากโควิดที่เพิ่งจะซาไป ก็มีโรคใหม่เข้ามาทันทีบอกได้เลยว่าห้ามประมาท ห้ามการ์ดตกไม่ต่างจากโควิดกันเลยทีเดียว แต่ลักษณะเป็นแบบไหนเดี๋ยวทางเราจะพาไปแนะนำกันเลยแต่ก่อนอื่นถ้าไม่อยากเสี่ยงการติดโรคนี้ก็ควรจะใช้ จิ๋มกระป๋อง อยู่ที่บ้านจะดีที่สุดเพราะจะได้ไม่ต้องไปติดต่อโรคนี้มาจากคนอื่น สบายใจ สบายตัว นอนหลับฝันดีกันเลยทีเดียวถ้าอยากหาความรู้ว่าทำไมผู้ชายชอบจิ๋มกระป๋องต้องอ่าน เรามาเริ่มที่กันอาการกันก่อนเลยดีกว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราติดโรคฝีดาษลิงหรือไหมลองมาสังเกตุอาการดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อประมาณ 12 วัน อาการเบื้องต้นมีหลายอย่าง รวมถึง มีไข้, หนาวสั่น, ปวดหัว, เจ็บคอ, บวม, ปวดหลัง, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ,ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลียและซึมเซา ซึ่งอาจจะแยกได้ยากกับโควิดเพราะแทบจะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรือแยกได้ยากกับไข้หวัดใหญ่แต่ต้องดูอาการต่อไปก็คือเมื่อไข้ทุเลาลง อาจเกิดผื่นขึ้น มักจะเริ่มจากบนใบหน้าก่อน จากนั้นจะลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ส่วนใหญ่จะพบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า ผื่นนี้อาจจะมีอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง และมีการเปลี่ยนแปลงหลายขั้น ก่อนที่ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา รอยโรคนี้อาจทำให้เกิดแผลเป็นตามมา บอกได้เลยว่าถ้าติดแล้วจะต้องมีแผลให้ติดตามตัวไปอีกนานแน่ ๆ ไม่ต่างกับโรคอีสุขอีใสเลย งานนี้อย่าเป็นเลยจะดีที่สุดเพราะเสียโฉมกันหลายคนแน่เลย เพราะมันจะเริ่มที่หน้าอันดับแรก ซึ่งการติดต่อของโรคฝีดาษลิงเกิดขึ้นได้อย่างไรลองมาดูกันต่อเลย การติดต่อนั้นไวรัสชนิดนี้จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางรอยแตกบนผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ หรือผ่านทางตา จมูก หรือปาก หรือถ้าหากแถวบ้านมีสัตว์ชนิดฟันแทะและตระกูลลิงแนะนำให้อยู่ห่างไว้จะดีที่สุดเช่น หนู กระรอก กระต่าย เป็นต้น สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงรวมทั้งคนก็อาจติดเชื้อได้ โดยคนสามารถติดโรคนี้จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด หรือการกินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ เป็นต้น การแพร่เชื้อจากคนสู่คนอาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิด แต่มีโอกาสน้อยมากในการแพร่จากคนสู่คน ถ้าหากได้ลองจับหรือสัมผัสแล้วก็แนะนำว่าควรล้างให้สะอาด ฟอกสบู่ให้ถี่ ๆ อาจจะช่วยลดการติดโรคได้จากนี้เชื้อโรคนี้ยังแพร่กระจายด้วยการสัมผัสกับวัตถุที่ปนเปื้อนไวรัสชนิดนี้ อย่าง ผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้า เพราะฉนั้นก็อย่าไปนอนหรือใช้เสื้อผ้าร่วมกับคนอื่นจะดีที่สุด เลี่ยงได้เลี่ยง ส่วนเรื่องอันตรายนั้นก็พบว่าผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง บางครั้งคล้ายกับอาการของโรคอีสุกอีใสและหายเองได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ฝีดาษลิง อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นได้ในบางกรณี และเคยมีรายงานว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายคนในแอฟริกาตะวันตก โดยอัตราการตายสูงสุดอยู่ในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งอาจสูงถึง 10% เป็นอันตรายต่อเด็กนั่นเองส่วนเรื่องการรักษานั้นยังไม่มีวิธีการรักษา คล้าย ๆ โควิดแหละครับ ต้องอยู่ที่ร่างกายของเราว่าจะรับมือได้ขนาดไหน ส่วนวัคซีนนั้นก็ป้องกันได้ 85% ถือว่าเยอะอยู่นะครับแต่ก็ต้องพึ่งพาร่างกายของเราด้วยว่าจะรับมือได้ขนาดไหน แต่ถ้าอยากสบาย ๆ มีความสุขอยู่ที่บ้านต้อง ซื้อจิ๋มกระป๋อง จากทางเราไปใช้กันดีกว่า ถือได้ว่าโรคนี้มีความอันตรายอยู่บ้างแต่ที่หลัก ๆ จะทำให้เราเสียโฉมมากกว่าเพราะมันเริ่มจากที่หน้าแล้วลามไปทั้งตัว ส่วนเด็กจะมีอันตรายมากที่สุด วิธีเลี่ยงก็คืออย่าไปสัมผัสกับสัตว์ต่าง ๆ เช่นตระกูลลิงหรือตระกูลฟันแทะ เพราะเป็นพาหะของโรคนี้ หมั่นล้างมือให้บ่อย ๆ และอย่าใช้เสื้อผ้าร่วมกับผู้อื่นจะดีที่สุดถ้าหากอยากพูดคุยเพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้ตลอดเวลาไม่ต้องเกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook หรือ Line ได้เลย ด้วยประสบการณ์ขายมามากกว่า 10 ปี ของทุกชิ้นนั้นไม่มีทางผิดหวังอย่างแน่นอนครับ ต้องขอบคุณข้อมูลสุขภาพจากทาง BBC : https://www.bbc.com/thai/international-61522154 Share this:TwitterFacebook
ฝีดาษลิงติดต่อทางไหน อาการเป็นอย่างไรต้องดู
ฝีดาษลิงติดต่อทางไหน อาการเป็นอย่างไรต้องดู
ฝีดาษลิงติดต่อทางไหน อาการเป็นอย่างไรต้องดู วันนี้ถ้าจะไม่พูดถึงฝีดาษลิงก็คงจะไม่ได้เพราะหลังจากโควิดที่เพิ่งจะซาไป ก็มีโรคใหม่เข้ามาทันทีบอกได้เลยว่าห้ามประมาท ห้ามการ์ดตกไม่ต่างจากโควิดกันเลยทีเดียว แต่ลักษณะเป็นแบบไหนเดี๋ยวทางเราจะพาไปแนะนำกันเลยแต่ก่อนอื่นถ้าไม่อยากเสี่ยงการติดโรคนี้ก็ควรจะใช้ จิ๋มกระป๋อง อยู่ที่บ้านจะดีที่สุดเพราะจะได้ไม่ต้องไปติดต่อโรคนี้มาจากคนอื่น สบายใจ สบายตัว นอนหลับฝันดีกันเลยทีเดียวถ้าอยากหาความรู้ว่าทำไมผู้ชายชอบจิ๋มกระป๋องต้องอ่าน
เรามาเริ่มที่กันอาการกันก่อนเลยดีกว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราติดโรคฝีดาษลิงหรือไหมลองมาสังเกตุอาการดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อประมาณ 12 วัน อาการเบื้องต้นมีหลายอย่าง รวมถึง มีไข้, หนาวสั่น, ปวดหัว, เจ็บคอ, บวม, ปวดหลัง, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ,ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลียและซึมเซา ซึ่งอาจจะแยกได้ยากกับโควิดเพราะแทบจะไม่ต่างกันสักเท่าไหร่หรือแยกได้ยากกับไข้หวัดใหญ่แต่ต้องดูอาการต่อไปก็คือเมื่อไข้ทุเลาลง อาจเกิดผื่นขึ้น มักจะเริ่มจากบนใบหน้าก่อน จากนั้นจะลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ส่วนใหญ่จะพบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า ผื่นนี้อาจจะมีอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง และมีการเปลี่ยนแปลงหลายขั้น ก่อนที่ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ในระยะสุดท้ายตุ่มหนองจะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา รอยโรคนี้อาจทำให้เกิดแผลเป็นตามมา บอกได้เลยว่าถ้าติดแล้วจะต้องมีแผลให้ติดตามตัวไปอีกนานแน่ ๆ ไม่ต่างกับโรคอีสุขอีใสเลย งานนี้อย่าเป็นเลยจะดีที่สุดเพราะเสียโฉมกันหลายคนแน่เลย เพราะมันจะเริ่มที่หน้าอันดับแรก ซึ่งการติดต่อของโรคฝีดาษลิงเกิดขึ้นได้อย่างไรลองมาดูกันต่อเลย การติดต่อนั้นไวรัสชนิดนี้จะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางรอยแตกบนผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ หรือผ่านทางตา จมูก หรือปาก หรือถ้าหากแถวบ้านมีสัตว์ชนิดฟันแทะและตระกูลลิงแนะนำให้อยู่ห่างไว้จะดีที่สุดเช่น หนู กระรอก กระต่าย เป็นต้น สัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงรวมทั้งคนก็อาจติดเชื้อได้ โดยคนสามารถติดโรคนี้จากการสัมผัสโดยตรงกับเลือด สารคัดหลั่ง หรือตุ่มหนองของสัตว์ที่ติดเชื้อ หรือจากการถูกสัตว์ที่มีเชื้อกัด หรือการกินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อที่ปรุงสุกไม่เพียงพอ เป็นต้น การแพร่เชื้อจากคนสู่คนอาจเกิดขึ้นได้จากการสัมผัสใกล้ชิด แต่มีโอกาสน้อยมากในการแพร่จากคนสู่คน ถ้าหากได้ลองจับหรือสัมผัสแล้วก็แนะนำว่าควรล้างให้สะอาด ฟอกสบู่ให้ถี่ ๆ อาจจะช่วยลดการติดโรคได้จากนี้เชื้อโรคนี้ยังแพร่กระจายด้วยการสัมผัสกับวัตถุที่ปนเปื้อนไวรัสชนิดนี้ อย่าง ผ้าปูที่นอนและเสื้อผ้า เพราะฉนั้นก็อย่าไปนอนหรือใช้เสื้อผ้าร่วมกับคนอื่นจะดีที่สุด เลี่ยงได้เลี่ยง ส่วนเรื่องอันตรายนั้นก็พบว่าผู้ติดเชื้อไวรัสนี้ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง บางครั้งคล้ายกับอาการของโรคอีสุกอีใสและหายเองได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ฝีดาษลิง อาจมีอาการรุนแรงมากขึ้นได้ในบางกรณี และเคยมีรายงานว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายคนในแอฟริกาตะวันตก โดยอัตราการตายสูงสุดอยู่ในกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งอาจสูงถึง 10% เป็นอันตรายต่อเด็กนั่นเองส่วนเรื่องการรักษานั้นยังไม่มีวิธีการรักษา คล้าย ๆ โควิดแหละครับ ต้องอยู่ที่ร่างกายของเราว่าจะรับมือได้ขนาดไหน ส่วนวัคซีนนั้นก็ป้องกันได้ 85% ถือว่าเยอะอยู่นะครับแต่ก็ต้องพึ่งพาร่างกายของเราด้วยว่าจะรับมือได้ขนาดไหน แต่ถ้าอยากสบาย ๆ มีความสุขอยู่ที่บ้านต้อง ซื้อจิ๋มกระป๋อง จากทางเราไปใช้กันดีกว่า
ถือได้ว่าโรคนี้มีความอันตรายอยู่บ้างแต่ที่หลัก ๆ จะทำให้เราเสียโฉมมากกว่าเพราะมันเริ่มจากที่หน้าแล้วลามไปทั้งตัว ส่วนเด็กจะมีอันตรายมากที่สุด วิธีเลี่ยงก็คืออย่าไปสัมผัสกับสัตว์ต่าง ๆ เช่นตระกูลลิงหรือตระกูลฟันแทะ เพราะเป็นพาหะของโรคนี้ หมั่นล้างมือให้บ่อย ๆ และอย่าใช้เสื้อผ้าร่วมกับผู้อื่นจะดีที่สุดถ้าหากอยากพูดคุยเพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้ตลอดเวลาไม่ต้องเกรงใจ ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook หรือ Line ได้เลย ด้วยประสบการณ์ขายมามากกว่า 10 ปี ของทุกชิ้นนั้นไม่มีทางผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
ต้องขอบคุณข้อมูลสุขภาพจากทาง BBC : https://www.bbc.com/thai/international-61522154
Share this: